มวยสากล ที่ถูกเรียกในปัจจุบันนั้น ในสมัยก่อนมีอีกชื่อที่ถูกเรียกว่า มวยต่างประเทศ เข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกใน พุทธศักราชที่ 2455
โดยการชกจะนำมาจากสหรัฐอเมริกา คนไทยที่นำมาให้เรารู้จักคือ หม่อมเจ้าวิบูลสวัสดิ์วงศ์ นำเข้ามายังสถานศึกษาที่แรกคือ โรงเรียนกุหลาบวิทยาลัย และต่อมาได้จัดการแข่งขันขึ้น มีโลกเรียนมากมายต่างให้ความสนใจ และเข้ามาการแข่งขันเป็นจำนวนมาก โดยการแข่งขันครั้งนั้นถูกเรียกว่า “มวยสากลสมัครเล่น” ต่อมาในปีพุทธศักราช 2457
พระยาคฑาธรบดีสีหบาลเมือง ได้ไปยังพื้นที่หลังคาแดง หรือ สวนลุมพีนีในปัจจุบัน ได้มีการจัดการแข่งขันขึ้นเพื่อให้ชาวบ้านได้รับชม โดบเชิญชาวต่างชาติเข้าชกในประเทศ ต่อมาในมีความนิยมมากยิ่ง จึ่งได้คัดเลือกนักมวยสากลชาวไทย ไปขึ้นชกกับนักมวยต่างชาติ โดยการชกจะเป็นการชกแบบสากลอาชีพ และมีการชกครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พุทธศักราช 2472ในตอนนั้นเองผู้ได้ขึ้นชกเป็นตัวแทนชาวไทยได้แต่ สวรรณ นิวาศวัต นักชกคู่แรก เป็นการชกที่เผ็ดมันอย่างมาก แต่รูปแบบการชกของชาวต่างชาติเหนือกว่า จึงทำให้การแข่งขันรอบนั้น ชาวไทยเป็นฝ่ายแพ้น้อคในยกที่ 4
และต่อมาในคู่ที่ 2 นักชกชาวไทยอย่าง โม่ สัมบุณณานนท์ ออกหมักหนัก สเต็ปการหลบที่ว่องไว ทำให้ได้รับชัยชนะในการชนะน็อค ที่ขึ้นชกกับ ยีชล โคโรนา ชาวฟิลิปปินส์ จากการแข่งขันในครั้งนั้นมวยสากลได้เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากขึ้น มีนักชกชาวไทยไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สมพงษ์ เวชสิทธิ์ แชมป์มวยสากลที่พิชิตในประเทศสิงคโปร์
และต่อมาจะเป็น พระประแดงเป็นรองแชมป์โลกคนแรกของประเทศไทย และยังมี จำเริญ ทรงกิจ เป็นแชมป์รุ่น OPBF คนแรกแต่ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น มวยสากลไทยเพราะความขยันของจำเริญได้ไปขึ้นชกชิงแชมป์โลกคนแรกด้วย แต่การชกครั้งนั้นถือว่าทำได้ดีอย่างมากแต่แพ้ให้กับชายต่างชาติไปอย่างน่าเสียดาย และในที่สุดก็ได้แชมป์มวยสากลคนแรกคือ โผน กิ่งเพชร ถือว่าครองแชมป์ยาวนานที่สุด ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2503 ถึงปีพุทธศักราช 2550
และตอนนั้นเอง ในประเทศไทยมีแชมป์โลกทั้งหมด 37 คน เป็นสถิติที่มากที่สุดในเอซียก็ว่าได้มวยสากลที่แผ่ขยายไปยังประเทศญี่ปุ่น จนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีจนมาถึงในปัจจุบันในประเทศที่เคยย่ำแย่ในยุคสงคราม แต่กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งหลังจากจบคงคราม แถมยังมีนักชกมากฝีมือมากมาย ที่ไปสร้างชื่อให้กับประเทศของตน มวยสากลอาชีพ ของประเทศญี่ปุ่นนั้น
เกิดครั้งแรกที่กรุงโตเกียวใจกลางญี่ปุ่น ในปีพุทธศักราช 2464 นักชกชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้แชมป์จากการชกกับสหรัฐอเมริกาอย่าง ยูจิโร วาตานาเบะ แถมได้รับฉายาจากชาวอเมริกาว่า “ราชันย์4ยก” ผู้ล้มแชมป์ได้เพียงแค่4ยกเท่านั้น และเป็นนักชกคนแรกที่ได้แชมป์โลกและในตอนนั้นเองวงการมวยในประเทศญี่ปุ่น ได้เป็นผู้ที่อยู่จุดสูงสุดของเกมกีฬา
เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในช่วง พุทธศักราช 2503 ถึงพุทธศักราช 2513 เป็นเวลากว่า 10 ปี และต่อมานั้นได้มีนักชกที่ถือครองทั้ง 2 รุ่น ทั้งรุ่นน้ำหนักรุ่นเล็กที่สุดตั้งแต่ 108ปอนด์แต่ไม่เกิน 112ปอนด์ และรุ่นน้ำหนักมากกว่า 115ปอนด์ แต่ไม่เกิน 118ปอนด์ จนถูกสมาพันธ์มวยสากลในญี่ปุ่นจัดตั้งหอวีรกรรมของวงการมวยสากลอีกด้วย ต่อมาในปี2513ไปจนถึงปี2523
ได้มีแชมป์เปี้ยนเกิดขึ้นมามากมาย ทำสถิติที่ดีอย่างมากก็ว่าได้ และจากการชกหลายสถาบัน หลายประเทศขึ้นมานั้น ในที่สุดก็ได้นักชกมวยสากลแชมป์โลกที่ใหญ่ที่สุดเป็นคนแรกที่ได้รับชัยชนะที่ใหญ่ที่สุด ได้แก่ ชินจิ ทาเกฮาระ
แต่เป็นแชมป์โลกเพียงชั้นๆ อยู้ได้เป็นแชมป์โลกเพียงแค่ 8 ปีเท่านั้น ต่อมาสมาคมมวยสากลแห่งประเทศได้ให้ความสำคัญกับนักชกทั้งระบบการดูและการกินและสุขภาพต่างๆเป็นอย่างดี โดยมีสถาบันใหญ่ที่ยอมรับเพียงแค่ 2 สถาบันเท่านั้นคือสมาคมมวยโลกหรือ WBA และ สมาคมสวยโลกหรือ WBC เท่านั้น
แต่ก็ยังมีนักชกที่ขึ้นชกสถาบันอื่นมากมาย สำหรับในการรับชมการถ่ายทอดสดนั้น จะมีสถานนีโทรทัศน์ของแต่ละค่าย จะมีการถ่ายทอดแตกต่างกันออกไป สามารถรับชมได้อย่างอิสระภายในประเทศนั้นเอง จะต่อมาได้มีข่าวออกมาให้อ่านมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนิตยาสารมวย หนังสือพิมส์มวย และอื่นๆอีกมากมายจัดทำขึ้น